ตลาดหุ้นไทย ขวัญใจต่างชาติ
ตลาดหุ้นไทย ขวัญใจต่างชาติ ไปต่อไม่รอแล้วนะ สำหรับ SET Index บ้านเรา ที่ตอนนี้พุ่งทะยานไปยืนระดับ 1,700 จุดเรียบร้อย นับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. เป็นต้นมา ที่ดัชนีฯ ปรับขึ้นเรื่อยๆ จนผ่านแนวต้าน 1,650 1,670 และ 1,685 จุด จนผ่านแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1,700 จุดไปได้
ขณะที่เม็ดเงินไหลเข้า หรือฟันด์โฟลว์ ก็ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แค่สัปดาห์นี้สัปดาห์เดียว ( 7-10 ก.พ.) ก็ซื้อสุทธิไปแล้ว 3.6 หมื่นล้านบาท ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เงินไหลเข้ามาแล้ว 4.3 หมื่นล้านบาท เป็นต่างชาติมองกว่าเศรษฐกิจอาเซียนน่าจะเติบโตโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่น
ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ยังประเมินว่าฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นบ้านเราได้อีก เพราะสถานะการถือครองหุ้นของต่างชาติในบ้านเรายังต่ำกว่าปกติมากโดยสัดส่วนการปิดโอนฯต่ำเพียง 21% เทียบกับจุดสูงสุดที่ 30% อีกทั้งโครงสร้างตลาดหุ้นไทยราว 2 ใน 3 เป็นหุ้น Commodity + Old Economy ซึ่งอยู่ในกระแสการลงทุน ตลอดจน EPS Growth และ GDP Growth บ้านเรา ก็อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แถมล่าสุด กนง. ก็คงอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อเนื่อง ทำให้ Market Earning Yield Gap ขยายกว้าง
เรียกว่าเป็นขวัญใจต่างชาติ ทั้งหัวดำ หัวทองกันเลยทีเดียวสำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ดี เห็นหุ้นวิ่งฉิวแบบนี้ จะใส่เกียร์ 5 วิ่งใส่อย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค.ของสหรัฐ ที่พุ่งปรี๊ดถึง 7.5% กลายเป็นปัจจัยที่ทั่วโลกต้องระวัง เพราะนั่นอาจหมายถึงการที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้
โดย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน คงมุมมองดัชนีสูงกว่า 1,700 จุด เป็นจุดที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และอาจเป็นจังหวะลดน้ำหนักสถานะลงทุนในหุ้นที่เริ่มแพงหรือมีความน่าสนใจน้อยลงเชิงมูลค่า หากประเมินส่วนต่างจากอัตราผลตอบแทนระหว่างหุ้นเทียบพันธบัตร พบว่าตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในจุดที่ค่อนข้างแพง และเปราะบาง ส่งผลให้การซื้อบริเวณนี้มี Risk/reward ที่ไม่น่าสนใจ ซึ่งอาจต้องอาศัยการเติบโตกำไรตลาดในปี 65 ที่สูงกว่า 13-15%
ขณะที่ บล.กรุงศรี ประเมินว่า SET พักตัวแนวรับ 1,690 – 1,695 จุด จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่รุนแรงของสหรัฐ ส่งผลให้ US bond yield 10 ปีดีดตัวเหนือ 2% และอาจทำให้ FED ต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 64 รวมถึงศบค.เตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดเพิ่มเติม จะช่วยให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส าคาด SET Index มีแนวโน้มลงระยะสั้นหากรอบ 1,690+- จุด ตามบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นลบ และเม็ดเงินที่ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐฯประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ทำให้ตลาดกังวลว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ประเมิน โดยคาด FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน มี.ค. ด้วยความน่าจะเป็น 89% และขึ้นครบ 1% ในการประชุมเดือน มิ.ย.
เพราะฉะนั้นเห็นแบบนี้แล้ว ช่วง 1,700 จุด ของ SET Index จึงเป็นช่วงที่ตลาดอาจพักฐาน และในฐานะนักลงทุนก็ต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ แต่หลายๆโบรกฯ ก็ยังมองบวกเพราะหากตลาดผ่าน 1700 จุดไปแบบมั่นคง ก็น่าจะไปต่อได้ที่ 1,730 และ 1,740 จุดได้เช่นกัน และแน่นอน เชื่อว่าตลาดหุ้นบ้านเรา ยังน่าจะเป็นขวัญใจของต่างชาติไปอีกระยะหนึ่ง
อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ /tradestock24.com