MAJOR นิวไฮรอบ 3 เดือน …ธุรกิจฟื้นแรง – ปันผลสูง
MAJOR นิวไฮรอบ เช้านี้ MAJOR ดีดทำนิวไฮรอบ 3 เดือน รับกำไรปกติ Q4/64 ดีกว่าโบรกฯคาดเกือบเท่าตัว แถมปันผลให้ยีลด์ 3% ขึ้น XD 21 เม.ย.นี้ ขณะที่โบรกฯประเมินกำไร Q1/65 ยังฟื้นแรงต่อ ตามเม็ดเงินโฆษณาพุ่ง – คลายกังวลโควิด จับตา Q2/65 หนังฟอร์มยักษ์รอฉายเพียบ เชื่อหนุนราคาหุ้นพุ่ง แถมอัพไซด์ยังเปิดกว้าง!
นิวไฮรอบ 3 เดือน รับงบดีกว่าคาด แถมปันผลยีลด์ 3%
ราคาหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ช่วงเช้าวันนี้ ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 22 บาท เพิ่มขึ้น 8.37% จากวันทำการก่อนหน้า (ทำนิวไฮรอบ 3 เดือน) ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 21.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.2 บาท หรือ 5.94% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 232.01% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น MAJOR เช้านี้ ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 3 เดือน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 4/64 ซึ่งมีกำไรปกติ 100 ล้านบาท สูงกว่าที่ถูกคาดไว้เดิม 55 ล้านบาท
นอกจากนี้ MAJOR ยังประกาศจ่ายเงินปันผล งวดผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 64 ในอัตรา 0.6 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 3% โดยจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) วันที่ 21 เม.ย.65 และจ่ายเงินปันผล 6 พ.ค.นี้
คาดต้นปียังฟื้นต่อ รับหนังฟอร์มยักษ์ฉาย – กังวลโควิดลดลง
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ MAJOR ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนได้อย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุน จากการมีภาพยนตร์จากค่ายใหญ่ทยอยเข้าฉาย ทั้งโซนี่พิคเจอร์ส, วอลดีสนีย์, วอร์เนอร์บราเธอส์ และ จีดีเอช แม้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ จะกลับมาแตะหลักหมื่นคน/วันอีกครั้งก็ตาม
ทั้งนี้ มองว่า การแร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น จึงมองว่า รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนปี 63 และ 64 อีกแล้ว ส่งผลให้ธุรกิจชอง MAJOR จะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่มองว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของ MAJOR ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากเม็ดเงินโฆษณา ที่นีลเส็นรายงานในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สื่อโรงภาพยนตร์มีการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ออกฉาย ประกอบกับ ความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 เริ่มลดลง
กูรูชี้ขาย SF ไม่กระทบกำไร ดอกเบี้ยจ่ายลดทดแทนได้
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า เมื่อช่วงกลางปี 64 ทาง MAJOR ได้ตัดขายหุ้น SF ทั้งหมดออกไป ทำให้จะไม่สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก SF ได้อีก แต่มองว่า ประเด็นดังกล่าว จะไม่กระทบต่อกำไรสุทธิของ MAJOR เนื่องจากบริษัท ได้นำเงินที่ขายหุ้น SF บางส่วนไปชำระคืนหนี้ ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายแต่ละไตรมาส จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ MAJOR ยังได้นำเงินจำนวนดังกล่าว ไปลงทุนขยายธุรกิจเพิ่ม เช่น ขยายธุรกิจอาหาร นำป๊อปคอร์นเข้าไปจำหน่ายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และยังเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศจีนในการสร้างภาพยนตร์เข้าฉายในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ จากการมีจอโรงภาพยนตร์กว่า 8 หมื่นจอ ซึ่งหากภาพยนตร์ของ MAJOR และ พันธมิตรสามารถเข้าฉายได้เพียงแค่ 5 พันจอ ก็จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ MAJOR ได้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว
จับตา Q2/65 มีปัจจัยหนุนราคาหุ้นรออยู่
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า ราคาหุ้น MAJOR มีแนวโน้มกลับสู่ช่วงขาขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 จากการเข้าสู่ฤดูที่ดีสำหรับการชมภาพยนตร์ เนื่องจากภาพยนตร์ที่ทำเงินที่คาดไว้ส่วนมาก จะออกฉายในช่วงดังกล่าว ซึ่งถ้าภาพยนตร์เรื่องใดได้ Box office revenue ใกล้เคียงกับ Spiderman
จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นราคาหุ้นของ MAJOR ในช่วงดังกล่าวได้อีกด้วยเช่นเดียวกับ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่เสริมว่า ช่วงไตรมาส 2-3/65 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของ MJOR จากการมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จำนวนมาก ต่อคิวรอเข้าฉายในช่วงดังกล่าว
โบรกฯอัพเป้าปี 65 คาดกำไรปกติเทิร์นอะราวด์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ได้ปรับประมาณกำไรสุทธิปี 65 ของ MAJOR ขึ้นจากเดิม 18% เป็น 866 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนปกติ 627 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้น SF มูลค่า 2.5 พันล้านบาท และ ค่าชดเชยเพลิงไหม้ มูลค่า 322 ล้านบาท) เพื่อสะท้อนรายได้อื่นๆที่สูงกว่าคาด จากมาตรฐานบัญชีใหม่
เช่นเดียวกับ บล.เอเซีย พลัส ที่มองว่า ผลการดำเนินงานปกติปี 65 ของ MAJOR จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิราว 809 ล้านบาท โดยมองว่า การพลิกกลับมามีกำไรปกติในช่วงไตรมาส 4/64 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรักษามาตรฐานระดับดังกล่าวไว้ได้ตลอดปี 65 จากการมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอคิวเข้าฉายอยู่หลายเรื่อง
ขณะที่ ธุรกิจขายป๊อปคอร์นของ MAJOR ยังได้รับปัจจัยหนุน จากการเริ่มบุกตลาดในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น โดยคาดจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าในช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ ประกอบกับ ธุรกิจโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น อีกทั้งยังมี Gross Margin สูงถึง 80 – 90% อีกด้วย
อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ tradestock24.com